โปรโมทเว็บไซต์คุณกับแอดยิ้มวันนี้ กระจายโฆษณาของคุณ

บทความล่าสุด

แหล่งท่องเที่ยว ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ร้านอาหาร ของฝากที่ระลึก ที่พัก โรงแรม

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข้อปฏิบัติในการไปเที่ยวทะเล

ข้อปฏิบัติในการไปเที่ยวทะเล

             ช่วงนี้เป็นช่วงปิดภาคเรียนที่ตรงกับฤดูร้อน หลายครอบครัวจึงวางแผนที่จะไปท่อง เที่ยวตามจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดทะเลทางภาคตะวันออกและภาคใต้ เพื่อชมความงามของทัศนียภาพชายทะเล หาดทราย เกาะต่างๆ และปะการังใต้ท้องทะเล รวมถึงพักผ่อนคลายร้อน ซึ่งการไปท่องเที่ยวทะเล มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติภัยทางน้ำได้

             กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย มีข้อแนะนำสำหรับการปฏิบัติตนในการไปท่องเที่ยวทะเลอย่างปลอดภัย ดังนี้

             ก่อนออกเดินทางตรวจสอบเส้นทางและศึกษาสภาพอากาศของแหล่งท่องเที่ยว โดยติดตามพยากรณ์อากาศอย่างสม่ำเสมอ หากมีประกาศแจ้งเตือนเกี่ยวกับคลื่นพายุลมแรง ควรงดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ตรวจสอบสภาพแหล่งท่องเที่ยว หากเป็นบริเวณที่มีคลื่นสูง มีทรายดูด เป็นที่อาศัยของสัตว์มีพิษ เคยเกิดคลื่นน้ำทะเลดูด (Rip Current) หรือคลื่นซัดฝั่งอย่างรุนแรง





             ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปเล่นน้ำบริเวณดังกล่าว จัดเตรียมสัมภาระที่จำเป็น เช่น ยารักษาโรค ห่วงยาง ชูชีพ เป็นต้น เพื่อไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน

             ขณะเล่นน้ำทะเล ไม่เล่นน้ำหลังรับประทานอาหาร เพราะจะทำให้เป็นตะคริวที่ท้อง ทำให้จมน้ำได้ ควรพักประมาณ 1 ชั่วโมงหลังทานอาหาร เล่นน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ห้ามเล่นน้ำบริเวณน้ำลึก บริเวณที่มีคลื่นลมแรงและมีโขดหินอย่างเด็ดขาด โดยสังเกตธงที่ปักแสดงความลึกของระดับน้ำ หากเป็นธงสีเขียว แสดงว่าสามารถเล่นน้ำได้

             หากเป็นธงสีแดงหนึ่งอันแสดงว่าอันตราย แต่ถ้าเป็นธงสีแดง 2 อันแสดงว่าพื้นที่นั้นอันตรายมาก ส่วนธงสีเหลือง แสดงว่าให้ระวัง ไม่ควรเล่นน้ำตามลำพัง หากว่ายน้ำไม่เป็น ควรสวมใส่เสื้อชูชีพหรือห่วงยาง เพื่อป้องกันการจมน้ำ ห้ามว่ายน้ำเข้าใกล้เรือขณะที่เรือกำลังแล่นอย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกเรือชนหรือใบพัดเรือบาด ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพัง

             ผู้ปกครองควรดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้คลาดสายตาเพราะหากเด็กถูกคลื่นซัด  หรือเป็นตะคริว  จะไม่สามารถช่วยเหลือตนเองให้ปลอดภัยได้

             การปฏิบัติตนในสถานการณ์ฉุกเฉิน หากถูกคลื่นทะเลดูด ให้ว่ายน้ำเลี่ยงจากจุดที่คลื่นทะเลดูดและรีบว่ายเข้าหาฝั่งทันที กรณีถูกคลื่นทะเลซัดอย่างรุนแรงห้ามว่ายสวนกระแสน้ำ ให้ว่ายขนานกับชายฝั่ง จะช่วยให้พ้นจากกระแสน้ำได้

             นอกจากนี้ การดำ น้ำชมปะการังก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยม หากขาดความระมัดระวังอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ จึงมีข้อปฏิบัติเพื่อความปลอดภัย ดังนี้

             - ตรวจสอบสภาพอากาศและคลื่นลม ในบริเวณที่จะไปดำน้ำ หากคลื่นลมรุนแรงเกินไปก็ไม่ควรดำน้ำในบริเวณดังกล่าว ปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อห้ามของพื้นที่ที่เข้าไปดำน้ำทุกครั้ง

             - ในการดำน้ำบริเวณลึก จะต้องเรียนดำน้ำอย่างถูกวิธีและเลือกใช้อุปกรณ์ดำน้ำที่เหมาะสมกับการใช้งาน  

             - ห้ามดำน้ำขึ้น - ลงอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้ก๊าซภายในปอดขยายตัวอย่างรวดเร็วและเข้าไปอยู่ ในเลือด โดยเฉพาะช่วงขึ้นจากน้ำ จนทำให้เลือดขึ้นไปอุดตันสมอง  จนเกิดภาวะน็อกน้ำทะเล ซึ่งจะทำให้มีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้

             - กรณีถูกกระแสน้ำซัด อย่าว่ายสวนหรือว่ายทวนน้ำ จะทำให้เหนื่อยง่าย ให้ใช้วิธีลอยตัวไปตามกระแสน้ำ รอจนกว่าจะมีเรือมารับ

             - ไม่ควรดำน้ำตามลำพัง ควรมีกลุ่มเพื่อนลงไปดำ น้ำด้วย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้มีคนคอยช่วยเหลือ และพยายามเกาะกลุ่มไว้ เพื่อไม่ให้พลัดหลง และควรหยุดดำน้ำทันที หากเริ่มมีกระแสน้ำพัดห่างออกจากฝั่งไปเรื่อยๆ หรือมีฝนตั้งเค้าและเริ่มมีคลื่นลมรุนแรงขึ้น

             จะเห็นได้ว่า การท่องเที่ยวทางทะเลมีความเสี่ยงต่อการเกิด อุบัติภัยทางน้ำได้ในหลากหลาย รูปแบบ ดังนั้น ก่อนเดินทางควรตรวจสอบสภาพอากาศและสภาพพื้นที่ จัดเตรียมอุปกรณ์และสิ่งของที่จำเป็น เลือกสถานที่ในการเล่นน้ำหรือดำน้ำในบริเวณที่ปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎระเบียบหรือคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ที่สำคัญหากนำเด็กไปด้วยต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

             ไม่ปล่อยให้เด็กเล่นน้ำตามลำพังอย่างเด็ดขาด เพื่อให้การท่องเที่ยวทางทะเลเป็นการพักผ่อนคลายร้อนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานและปลอดภัย
ที่มา: กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
http://www.thaihealth.or.th/node/8602

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น